** คอรัปชั่น ...ในสายตาของคุณ !!

[see-u]

** กระทู้นี้ ...ขอเป็นการตั้งคำถามนะคะ
อยากทราบความเห็นของคนที่สนใจการเมือง...อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลาย
ว่ามีแนวคิดในการมองเรื่อง " คอรัปชั่น " ในมุมมองของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง

1. มองเรื่อง คอรัปชั่น ..ในแง่มุมไหน ?
2. คิดยังไงกะคอรัปชั่นในบ้านเรา ?
3. อยากให้มีการแก้ปัญหาในจุดใดบ้าง ?
4. และตัวเรามีอะไรในการนำเสนอความคิดในการแก้ไขมั๊ย ?

เชิญเสวนา ...ค่ะ

[see-u]

** ทั้งนี้ ..อาจจะแตกประเด็นไปได้ในเรื่องของ
หน่วยงานราชการ ..หรือ การเกี่ยวโยงกะทางภาคธุรกิจ

คำถามพวกนี้ ..ถามไว้เพื่อนำไปต่อยอดในวันข้างหน้าค่ะ

[noway2know]

ไม่รักษาผลประโยชน์ของชาติ
การทำโครงการ เพื่อจ้องจะหาผลประโยชน์

การปกป้องพวกพ้องในสิ่งที่ผิด เวลามีโครงการทุจริตขึ้นมา
นั่นคือนิสัียนักการเมือง ถ้าพูดถึงในส่วนของการเมืองนะค่ะ

ส่วนข้าราชการประจำ นักการเมืองให้คุณให้โทษได้
เป็นนิสัยส่วนตัว ที่ประจบ เลียนักการเมืองด้วย
ทำให้ร่วมในการโกงชาิติไปด้วย หรือการไม่อยากเดือดร้อน

ส่วนข้าราชการดีๆ ที่ออกมาแฉโครงการทุจริต การคอรัปชั่น ก็ขอปรบมือให้ค่ะ
เพราะเงินเดือนคุณคือภาษีประชาชน ไม่ใช่เงินนักการเมือง

[noway2know]

ระบบอุปถัมภ์ และการคอร์รัปชั่น ในราชการไทย
โดย...สุทธิชัย ปัญญโรจน์

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา กระผมได้มีโอกาสทำหน้าที่วิทยากรในโครงการ “ การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ในราชการ ” จัดโดย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย ณ ห้อง C102 อาคารเรียนรวม ม.นเรศวรพะเยา สำหรับกระผมได้รับหัวข้อ “ กลไกต่างๆ ของภาครัฐในการส่งเสริมและป้องปรามให้ข้าราชการประพฤติตนอย่างมีคุณธรรม” ด้าน ผู้เข้ารับการอบรมได้แก่ เจ้าหน้าที่ และผู้บริหาร ในหน่วยงานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัด เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน

ถ้าพูดถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในราชการ เราอาจจะนึกถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เช่นปัญหาระบบอุปถัมภ์ ที่มีมานานมากเนื่องจากในอดีตเรามีระบบสังคมแบบศักดินา เจ้าขุนมูลนายดูแลทาส คนที่อยู่ในสถานะที่ต่ำกว่า ขอความช่วยเหลือ พึ่งพาผู้ที่มีสถานะที่สูงกว่า จึงทำให้สังคมไทยในปัจจุบันเกิดระบบอุปภัมภ์ ยิ่งในระบบราชการ หากใครสามารถทำตนให้นายพอใจ ก็จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบต่างๆ

อาจเป็นขั้นเงินเดือน ตำแหน่งหน้าที่การงาน
จนบางครั้งมีคนในระบบราชการพูดเล่นปนจริงว่า ใครที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
อนาคตในระบบราชการสดใสแน่ คือ สายโลหิต ศิษย์ข้างเคียง ส่งเสบียงหลังบ้าน กราบกรานสอพลอ ล่อไข่แดง

สายโลหิตคือ คนที่เป็นญาติ พี่น้อง ลูกพี่ ลูกน้อง มีสายเลือดใกล้เคียงกัน คนนั้นมักได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ไวกว่า คนที่ไม่มีสายเลือดเดียวกัน

ศิษย์ข้างเคียง คือ คนที่จบจากสถาบันเดียวกัน มีอาจารย์คนเดียวกัน เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์โดยอาจารย์ท่านนั้นสามารถมีอำนาจให้คุณให้โทษใน องค์กรได้ ก็มักจะเจริญก้าวหน้า

ส่งเสบียงหลังบ้าน คือเจ้านายบางคนอาจซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่คดโกง จนลูกน้องไม่รู้จะเอาใจอย่างไรจึงเปลี่ยนไปเอาใจ ภรรยาหรือสามี ของเจ้านายแทน เช่น ซื้อของไปฝาก หาของมีค่าไปให้ พอเวลาถึงฤดู เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนขั้นเงินเดือน ภรรยาหรือสามี ของเจ้านาย ก็จะพูดเชียร์แทน

กราบกรานสอพลอ คือ ประจบ เอาอกเอาใจเจ้านาย ด้วยวิธีการต่างๆ นานา คอยรับใช้งานต่างๆ

ล่อไข่แดง คือ การหาผู้หญิงสวยๆ มาให้นาย หรือ บางคนถึงขนาดเอาตัวเอง เข้าแลกกับยศ กับตำแหน่งกับเงินทอง เพราะคนบางคนอาจคิดว่า การไต่เต้านั้นใช้เวลานาน แต่การใช้เต้าไต่ มันง่ายกว่า สบายกว่า

สำหรับปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในระบบราชการไทย ก็คือระบบ การทุจริตคอร์รัปชั่น หรือ การฉ้อราษฏร์บังหลวง เป็นปัญหาหนึ่งของสังคมไทยที่พูดกันมานาน จะเห็นได้จากข่าวเกี่ยวกับการขายหุ้นบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติ โดยมี การ วางแผน ซับซ้อน เพื่อเลี่ยงภาษีอากร ทำให้ไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว ข่าวนักการเมือง เรียกเงินค่าอนุมัติโครงการต่างๆ ตามสื่อต่างๆ

การออกมาพูดของอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย หลายท่าน ออกมาพูด ต่อต้านปัญหาการคอร์รัปชั่น การซื้อเสียง ทำให้เราได้รู้กันอย่างกว้างขวางในสังคมไทยว่ามีมากขึ้น ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น จนถึงระดับชาติ

ดังนั้น ไม่เป็นการประหลาดใจเลย ที่กลุ่มนักธุรกิจต่างประเทศหรือธุรกิจข้ามชาติ ได้จัดอันดับว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นสูงสุดอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ปัญหาคอร์รัปชั่นส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้บริหารระดับสูงของหน่วยราชการต่างๆ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้มีอำนาจมาก สามารถ ปลดหรือสั่งย้าย ข้าราชการระดับต่างๆได้ จึงใช้อำนาจบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้ข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ หาผลประโยชน์จากโครงการต่างๆ เช่น จากงบประมาณแผ่นดิน หรือ เงินจากโครงการต่างๆ ที่เสนอขออนุมัติ โดยมีการกำหนดเปอร์เซ็นต์ที่จะต้องได้รับด้วย ผู้ที่ร่วมมือก็ได้รับผลประโยชน์จากเงินเหล่านี้ด้วย ส่วนผู้ไม่ร่วมมือก็อยู่ไม่ได้ จากการกระทำดังกล่าว ทำให้เกิดผลกระทบกับหน่วยงานระดับล่างๆ จนทำให้ระบบเสื่อมถอยหรือเป็นเนื้อร้าย

การแก้ปัญหา อุปถัมภ์ คอร์รัปชั่น เราคงต้องแก้ไข ระบบเสียใหม่ และ เริ่มปลูกฝัง เด็กและเยาวชน รุ่นใหม่ให้มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม และจริยธรรม พึ่งพาตัวเอง

ปัญหาคอร์รัปชั่น ปัญหาอุปถัมภ์ จึงเป็น ปัญหาภัยร้ายของระบบราชการไทย

สถาบันพัฒนาบุคลากร ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
http://www.drsuthichai.com/
email : suthichai_p@hotmail.com

http://www.oknation.net/blog/markandtony

[see-u]

** ขอบคุณมากค่ะ ..คุณ noway2know สำหรับคำตอบ
แล้วในส่วนของ .......

3. อยากให้มีการแก้ปัญหาในจุดใดบ้าง ?
4. และตัวเรามีอะไรในการนำเสนอความคิดในการแก้ไขมั๊ย ?

มีแนวคิดอย่างไรบ้างค่ะ ...
ตรงนี้ ..ในคำถามทั้งหมด 4 ข้อ อยากฟังแนวความคิดของทุก ๆ คนเลยนะคะ
หรือใครมีความเห็นอะไรมากกว่า 4 ข้อที่ถามไป ..ก้เพิ่มเติมมาได้ค่ะ

[noway2know]

คุณSee u ไม่เป็นไรค่ะ
การแก้ที่ยั่งยืน คือการแก้ที่จิตสำนึกของคนนะค่ะ
เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ประเทศชาติมาก่อนผลประโยชน์ส่วนตัว

ถ้าพูดตรงๆนะค่ะ การตรวจสอบต่างๆ คือการปราม
หาคนทำผิด และยับยั้งได้ในระดับหนึ่งในบ้านเรา

แต่ก็ต้องยอมรับ หลายๆคดี ก็หลุดกันไป
เพราะการต่อสู้ในศาล คือต้องใช้พยานหลักฐาน
บางสิ่งมันหาหลักฐานลำบาก

แก้....ก็ต้องแก้ที่คนนั่นแหละค่ะ
แต่จิตสำนึกของคน....ต้องคิดเองได้ด้วย

ถ้าชาติหน้ามีจริง ดิฉันตายแล้วเกิด 10 ชาติ
ไม่รู้ปัญหาคอรัปชั่น จะหมดไปจากประเทศไทยหรือเปล่า

ค่านิยมคนไทยคือความรักพวกพ้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีนะค่ะ
แต่ถ้ารักในเรื่องผิดชาติ ก็พาชาติล่มจมไปด้วย

การนับถือคนมีเงิน ด้วยส่วนหนึ่ง ไม่สนใจว่าเงินจะได้มาโดยวิธีไหน
ผลประโยชน์ส่วนตัว มาก่อนประเทศชาติ เราถึงได้เป็นอย่างทุกวันนี้
มีแต่กลิ่นโครงการคอรับชั่น เต็มไปด้วย

การเมืองคือธุรกิจอย่างหนึ่ง ต่อยอดธุรกิจตัวเอง
เป็นเส้นทางทำเงินที่รวยเร็วด้วย สำหรับคนบางประเภท
พวกนี้แหละพอมีอำนาจ เพาะเนื้อร้ายไว้ตามระบบราชการด้วย

[ae_mon]

ถ้าทุกคนคอรัปชันแล้ว ประเทศไทยจะเหลืออะไร
ต้องเริ่มที่ตัวเอง ไม่คิด ไม่ทำ
แต่คงเป็นเรื่องยากที่จะแก้ปัญหา
เพราะคอรัปชั่นมันอยู่คู่กับสังคมไทยมานานแล้ว

[neonewman]

ประชุมเชียร์ ระบบอำนาจนิยม?

จากสิ่งที่เรียกว่า ประชุมเชียร์ เมื่อเราวิเคราะห์ให้ดีๆจะพบว่ามันเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของระบบอุปถัมภ์ การแบ่งชนชั้น ระบบเผด็จการที่เข้ามาแฝงอยู่ โดยรวมนั้นคือระบบอำนาจนิยม(อำนาจเป็นใหญ่เหนือสิ่งใด)นั่นเอง จึงเป็นสิ่งที่น่าสลดว่าทั้งๆที่ประเทศไทยนั้นปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค มีหน้าที่อันสมควรปฏิบัติ วีรชนในอดีตจวบจนปัจจุบันตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 , 6 ตุลาคม 2519 , พฤษภาประชาธรรมหรือพฤษภาทมิฬ , 7 ตุลาคม 2551 ,เมษาทมิฬ 2552 และ 2553 ได้สละเลือดเนื้อและชีวิตต่อสู้กับเผด็จการ ต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด แต่เหตุใดเยาวชนที่ได้ชื่อว่าเป็นปัญญาชนของชาติกลับกระทำตรงกันข้ามกับ วีรชนเหล่านี้ ยังคงอนุรักษ์ระบบรับน้องประชุมเชียร์แบบเก่าๆ ซึ่งเป็นรากเหง้าของระบบอำนาจนิยม สวนทางกับระบอบประชาธิปไตย และเป็นการนำพาประเทศของเราให้ถอยหลังอยู่ในคลอง(ไม่น่าใช้คำว่าถอยหลังเข้า คลองในยุคนี้เสียแล้ว เพราะทุกวันนี้ประเทศของเราก็เหมือนถอยหลังจมอยู่ในคลองอยู่แล้ว มีปัญหามากมายดั่งกลียุค) จะเห็นได้ชัดว่าประเทศของเราวันนี้ไม่พัฒนาเป็นประเทศพัฒนาแล้วเสียที เพราะแม้แต่ปัญญาชนของชาติยังคงงมงายกับระบบประชุมเชียร์อำนาจนิยมเช่นนี้ อยู่เลย

ถามว่าประชุมเชียร์เป็นระบบอุปถัมภ์ แบ่งชนชั้น และเผด็จการอย่างไร? ก็ จะขออธิบายเป็นลำดับไป สำหรับระบบอุปถัมภ์และการแบ่งชนชั้นนั้น สิ่งที่ชัดเจนนั่นคือการแบ่งรุ่นพี่รุ่นน้องอย่างรุนแรงในระบบรับน้องประชุม เชียร์ ซึ่งมีการเน้นย้ำกันในเชิงว่า “กูเป็นพี่ มึงเป็นน้อง ไม่เหมือนกัน” ในลักษณะเช่นนี้ทุกๆคณะในมหาวิทยาลัยที่มีระบบนี้ มีที่มาจากคำว่า Seniority ซึ่งมาจากตัว S ตัวแรกในคำว่า SOTUS โดย เป็นไปในเชิงที่ค่อนข้างไม่มีเหตุผลนักตรงที่ว่ารุ่นน้องต้องเคารพผู้อาวุโส อย่างรุ่นพี่ อาจารย์ สำหรับอาจารย์คงไม่เป็นไร แต่ตรงรุ่นพี่นั้นไม่มีเหตุผลที่ว่าไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่ารุ่นพี่แบบไหนควร เคารพ บอกให้แค่เคารพเท่านั้น อาจเป็นผลให้รุ่นพี่ที่ประพฤติไม่ดีเกิดความได้ใจ เขาอาจจะคิดว่า “กูจะทำอะไร มันก็เรื่องของกู ยังไงกูก็ยังมีรุ่นน้องปีหนึ่งที่ต้องเกรงกู” โดยเฉพาะในห้องประชุมเชียร์ที่รุ่นพี่จะแสดงอำนาจบาตรใหญ่ตะโกนด่าโหวกเหวก ว้ากแว้กโวยวายเหวงเหวงใส่รุ่นน้องยังไงก็ได้ หรือในกิจกรรมรับน้องที่นิยมปิดตารุ่นน้องแล้วตะโกนใส่ทำนองนั้นแหละ ถ้ารุ่นพี่บางคนค่อนข้างหนักจะยึดติดกับระบบ SOTUS นี้ มาก สังเกตง่ายๆว่ารุ่นพี่เหล่านี้จะทำหน้าถมึงทึงตลอดเวลาในช่วงเดือนรับน้อง เวลาเดินผ่านรุ่นน้อง ถ้ารุ่นน้องไหว้จะไม่รับไหว้ เพราะถือว่ายังไม่ได้ “รุ่น”(จะกล่าวในบทต่อไป) ซึ่งดูประหลาดคนจริงๆ เพราะปฏิบัติสวนทางกับวัฒนธรรมไทยที่จะต้อง “ยิ้มไหว้ทักทายกัน” อย่างน้อยก็คนไทยด้วยกัน เลือดไทยเหมือนกัน แต่คนประหลาดพวกนี้คงจะไม่ยึดถือคำว่า “ไทย” เป็นใหญ่ แต่จะยึดถือคำว่า “รุ่น” เป็นใหญ่เท่านั้นในช่วงรับน้องเสียกระมัง

ถามว่าระบบรับน้องประชุมเชียร์ที่มีลักษณะของระบบอุปถัมภ์แบ่งชนชั้นนี้ส่งผลกระทบอย่างไรต่อสังคมส่วนรวม? ส่งผลแน่นอน สังเกตได้ว่าประเทศไทยนั้นมีระบบนี้มานานจนปัจจุบันนี้ ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองในทุกชนชั้นยึดติดระบบอุปถัมภ์แบ่งชนชั้นกันถ้วนหน้า ก็วัยรุ่นจุดเปลี่ยนของชีวิตก็พบระบบอุปถัมภ์ในการรับน้องประชุมเชียร์แล้ว พอเป็นผู้ใหญ่จะไปเหลืออะไร ชนชั้นนำ(ผู้เขียนนั้นไม่ต้องการแบ่งชนชั้น แต่ชนชั้นในที่นี้เป็นการกล่าวตามหลักวิชาการ)มีเงินมีทุน ปกครองด้วยระบบทุนนิยมสามานย์ ใช้เงินในการกว้านซื้ออำนาจและบริวารเพื่อสร้างการผูกขาด ซื้อกิจการสำคัญ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ แทรกแซงสื่อ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซื้อเสียงจากชาวบ้านในการเลือกตั้ง ชาวบ้านได้ผลประโยชน์ส่วนหนึ่งจากประชานิยม แต่ชนชั้นนำและเหล่าบริวารได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆจากการหลอกลวงประชาชนและการ ทุจริตคอร์รัปชั่นหลายแสนล้าน แล้วมันเกี่ยวกับประชุมเชียร์ยังไง? ก็ประชุมเชียร์มิใช่หรือที่สอนให้ต้องเคารพรุ่นพี่ เคารพผู้อาวุโส แต่ไม่อธิบายว่าต้องเคารพคนดีเท่านั้น ไม่เคยมีการบอกเหตุผล ไม่เคยมีการพูดถึงศีลธรรมจริยธรรมในการรับน้องประชุมเชียร์ ทั้งๆที่มันสำคัญที่สุดเพราะอยู่ในช่วงจุดเปลี่ยนของชีวิต มีแต่พูดกันเรื่อง ”รุ่น” จนเป็นที่มาของระบบใช้เส้นสายในระบบอุปถัมภ์ที่มีแต่การเอารัดเอาเปรียบต่อกัน สอนแต่คำว่าอดทน อดทนกับสิ่งเลวร้ายแต่ไม่สอนให้แก้ไขสิ่งเลวร้ายในชาติบ้านเมืองนี้ นิ่งเฉยอดทนไปวันๆกับความเลวร้ายในบ้านเมืองนี้จนชั่วครองเมืองไปหมด พอโตเป็นผู้ใหญ่ เอ้า สังคมไทยมีระบบอุปถัมภ์แฮะ ไปเราพี่น้องกัน พรรคพวกเดียวกันต้องช่วยกันอย่างโน้นอย่างนี้นะ ติดสินบน ใช้เส้นสายกันเข้าไว้ win win กันไป เอาเข้าไป คนโกงชาตินะหรือ? ระบบอุปถัมภ์ก็เป็นที่มาของการโกงอยู่แล้ว ไม่สนหรอกโกงไม่โกง เห็นใครมีเงินมาก มีผลประโยชน์ให้มากก็ไหว้เข้าไป เคารพไปโดยไม่ดูความดีความชั่ว ได้เงินได้ผลประโยชน์กลับไปกินดีอยู่ดีกันแล้ว ใครไม่ใช่พวกกูไม่สน ปล่อยมันไป แบ่งแยกมันไป ชาวบ้านก็ไม่ต่างกัน บอกโกงได้ไม่เป็นไรแต่ขอให้ทำงาน (ทั้งๆที่งานทำไป โกงไป มันจะมีประสิทธิภาพดีได้อย่างไร คนที่รับกรรมคือประชาชน ไม่คิดกัน) ชาวบ้านอยู่ในสภาวะที่พึ่งตนเองไม่เป็น ได้แต่เรียกร้องหาชนชั้นนำในการโกงชาติให้มาช่วยเหลือ ชาวบ้านอีกกลุ่มที่ไม่สนับสนุนคนโกงซึ่งเพียงเห็นต่างและไม่ได้รับผล ประโยชน์ที่เขามีสิทธิควรได้ ก็ถูกกีดกันออกไปอย่างไม่สนใจใยดีว่าพวกเขาเป็นอย่างไร ประชุมเชียร์มีปัญญาสอนได้แค่ให้อดทน อดทนจนชั่วครองเมือง จนทนกันไม่ไหวระเบิดออกมากลายเป็นกระแสสงครามประชาชน จากปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เกิดความแตกแยกในชาติของเราอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งๆที่ทุกคนก็คือคนไทยด้วยกันทั้งนั้น นี่แหละคือผลพวงแห่งระบบอุปถัมภ์แบ่งชนชั้นที่สร้างปัญหาให้ชาติมากมายถึง เพียงนี้

สำหรับในแง่ของความเป็นเผด็จการก็เช่นกัน การประชุมเชียร์นั้นเป็นลักษณะของการสั่งการโดยรุ่นพี่สั่งให้รุ่นน้องทำ อะไรก็ตามที่รุ่นพี่สั่งให้ทำ และมีการสร้างสภาวะกดดันทางจิตใจให้แก่รุ่นน้องอย่างชัดเจน เช่นการกำหนดจำนวนคนเข้าประชุมเชียร์ว่าในครั้งหน้าคุณต้องพาเพื่อนคุณมาให้ ได้จำนวนเท่านั้นเท่านี้ ทั้งๆที่มันเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลยอยู่แล้ว การประชุมเชียร์คือการเข้ามาฟังรุ่นพี่บ่น มาฟังรุ่นพี่ว้าก ซึ่งก็ว้ากเรื่องจริงบ้าง เพ้อเจ้อเมกกันขึ้นมาเองบ้าง แล้วใครหน้าไหนมันจะอยากมา คนที่เข้าจะมีแนวโน้มน้อยลงเสมอ แต่รุ่นพี่จะกำหนดโควตาให้มากขึ้นสวนทางกับจำนวนที่น้อยลง คนไม่เข้าประชุมเชียร์ก็ไม่โดนลงโทษอะไรอยู่แล้ว โดดไปสบายๆ คนไม่เข้านั้นก็มีสาเหตุอยู่ไม่กี่อย่าง คือบ้านอยู่ไกล กับไม่อยากเข้า คงมีไม่กี่คนหรอกที่เขาจะมาคิดว่า “เพื่อนที่เข้าไปเป็นไงบ้างนะ เราจะเข้าไปบ้างดีไหม” ส่วนคนเข้านั้นแม้จะเป็นการเข้าเพราะอยากรู้สถานการณ์ หรือเข้าเพราะรับผิดชอบ รักเพื่อน ไม่รู้จะโดดไปทำไม (เช่นผมที่เข้าทุกครั้งจึงรู้และเอามาบอกเล่า) ก็คือคนที่จะโดนบ่น โดนว้ากแทนเพื่อนที่ไม่เข้า ดังนั้นคนที่เข้าก็เจอสภาวะกดดันทางจิตใจ เช่นการต้องคิดว่าเราจะทำยังไงให้เพื่อนมาเข้าประชุมเชียร์เยอะขึ้น ซึ่งเมื่อเราพยายามจะชวนเพื่อนเข้ามาเพื่อแสดงให้รุ่นพี่ดูว่าเราทำได้ก็ไม่ สำเร็จอยู่ดี เพราะเพื่อนที่ไม่เข้าย่อมรู้อยู่แล้วว่า “เข้าไปโดนว้ากจะเข้าไปทำไม” เป็นเรื่องธรรมดาที่เราไปบังคับจิตใจคนอื่นไม่ได้ ช่วงรับน้องประชุมเชียร์ที่เรียกกันว่า “ช่วงว้าก”นี่แหละคือช่วงที่รุ่นน้องถูกกดดันมากที่สุด ผมไม่แปลกใจเลยถ้ามีคนต้องฆ่าตัวตายเพราะระบบรับน้องประชุมเชียร์ จากที่เล่ามาจะเห็นได้ว่าระบบนี้ไม่มีความยุติธรรมในแง่ที่ว่า คนโดดไม่เป็นไร แต่คนเข้ากลับโดนว้าก แม้คนเข้าจะได้ประสบการณ์ชีวิตก็ตาม แต่อย่างไรคนก็ย่อมคิดในแง่คิดแรก(โดดรอด เข้าโดน)มากกว่าอยู่ดี ถ้าคนที่จิตใจมีธรรมะไม่มากพอ ก็อาจจะคิดต่อไปในแง่ที่ว่า “ทำไมทำดีไม่ได้ดี” ซึ่งความคิดแบบนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิในทางธรรม คือความคิดเห็นผิดไปจากทำนองคลองธรรมเป็นบ่อเกิดของความชั่วร้ายทั้งปวง จึงสรุปได้ว่า ระบบรับน้องและประชุมเชียร์ในปัจจุบันเป็นระบบเก่า ระบบน้ำเน่าที่ล้าหลังและไม่พัฒนา ไม่ต่างจากการเมืองน้ำเน่าหรือละครน้ำเน่าเลย เป็นการใช้ระบบอำนาจนิยมอย่างชัดเจน จึงไม่มีความชอบธรรม เป็นรากเหง้าของความเลวร้ายก่อวิกฤตในประเทศไทยทุกวันนี้โดยไม่รู้ตัว แล้วเราจะรักษาความเก่าของระบบนี้ไว้อีกนานแค่ไหน ลูกหลานไทยต้องทรมาน ต้องตายกันอีกกี่คนเพื่อสังเวยระบบรับน้องประชุมเชียร์ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราควรปฏิรูประบบรับน้องประชุมเชียร์ใหม่เสียที!

[วีรดา]

เคยคุยกับรุ่นพี่คนหนึ่งคะ เขาบอกว่าคอร์รัปชันแต่ช่วยประชาชนก็ไม่เป็นไร ดิฉันก็คิดในใจ "ช่วยตรงไหนว่ะ" :o ในความคิดดิฉัน สิ่งที่หน้ากลัวกว่านักการเมืองคอร์รัปชันคือประชาชนยินยอมให้เขาคอร์รัปชัน

[นักเรียนตลอดชีพ]

ในความเห็นผม วงจรอุบาท ของการคอรัปชั่น เริ่มมาจาก ..
คนไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง ..
ปชช.ทำผิดกฎหมาย แต่ไม่ยอมรับโทษทางกฎหมาย ใช้การวิ่งเต้น ใช้การจ่าย เพียงเพื่อให้หลุดรอดจากการโดนดำเนนคดี มันเป็นค่านิยม ที่ผิดๆ ครับ .. การคอรัปชั่น มีจุดเริ่มต้นมาจากค่านิยมผิดๆ เล็กๆเท่านี้ ...(และ อย่าบอกว่าไม่เคยทำผิดนะ ใครไม่เคยถูกตร.ไถแล้วไม่เคยจ่ายเลยบ้าง) ..


ส่วนตัวถ้าจะแก้การทุจริต คอรัปชั่น ทุกคนต้องเปลี่ยนค่านิยมตัวเอง ครับ ...
- ปชช.ไม่ควรละเมิดกฎหมาย และเรียนรู้ข้อกฎหมายด้วย(ถ้ากรณีไม่รู้ หรือด้วยประมาท บทลงโทษควรลดหย่อน ไปตามนั้น)..
- จนท.รัฐควรทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด (รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาจากข้างบนกรณีไม่รู้ หรือประมาท)..
- หรือแม้แต่กฎหมาย ก็ต้องแก้ บ่อยครั้งที่กฎหมายไม่เอื้อให้เราทำอะไรถูกต้อง...
(กฎหมายนอกจากมีไว้ใช้บังคับคนให้อยู่ในร่องในรอยแล้ว กฎหมายมีไว้ใช้ช่วยเหลือคนไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิ อีกด้วย)

ข้างต้นที่กล่าวมาเป็นการแก้ระยะยาวครับ(คงนับไปเป็นเจนเนอเรชั่นของคนเลย) ..

[see-u]

** ขอบคุณ ..ทุก ๆ ความเห็นที่ตอบมานะคะ
เนื่องจาก ดิฉัน ตั้งประเด็นนี้ถามใน เฟสบุ๊ค ของตัวเองด้วย
ขอนำ คห. สมาชิกเก่าของที่นี่คนหนึ่ง ที่เขาเข้ามาคุยมาโพสไว้ในกระทู้นี้ด้วยนะคะ

ความเห็นของคุณ : พรรณชมพู

มุมที่หนึ่ง มุมของประชาชน คงไม่มีใครอยากให้ภาษีอากรของตนเอง
ถูกคอรัปชั่นไปบำรุงบำเรอความสุขของคนขี้โกงค่ะ และอยากให้มีการปราบปรามคอรัปชั่นให้เด็ดขาด
มีกฏหมายเอื้อให้ปราบปรามได้ง่าย และมีการลงโทษให้เด็ดขาด โดยถือเป็นคดีร้า้ยแรง
เช่นเดียวกับที่ศาลท่านลงโทษคนทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ทรัพย์สินของแผ่นดิน

มุมที่สอง มุมของประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วม ควรจะีกฏหมายเอื้ออำนวยให้ประชาชนรวมตัวกัน
และมีส่วนร่วมในการดำเนินการตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐ ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น
การเปิดเผยข้อมูลการประมูลงานของทุกภาคส่วนต้องเป็นข้อบังคับ มิใช่ต้องร้องขอ
แต่ต้องเปิดเผยเพราะเป็นระเบียบ เพื่อให้การตรวจสอบเกิดขึ้นได้โดยง่าย
ต้องมีหน่วยงานของรัฐที่จะรับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการโดยพลัน
มิใช่มืดบอดหมดหนทางเล่นงานคนโกงเช่นทุกวันนี้ การคอรัปชั่นนั้นมีหลายแบบ
เช่นโกงงบประมาณด้วยวิธีต่างๆ โกงสิทธิ์ โกงอำนาจ โกงโอกาส ทุกวิธีต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน

[มะเขือเทศเน่า]

** กระทู้นี้ ...ขอเป็นการตั้งคำถามนะคะ
อยากทราบความเห็นของคนที่สนใจการเมือง...อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลาย
ว่ามีแนวคิดในการมองเรื่อง " คอรัปชั่น " ในมุมมองของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง

1. มองเรื่อง คอรัปชั่น ..ในแง่มุมไหน ?
2. คิดยังไงกะคอรัปชั่นในบ้านเรา ?
3. อยากให้มีการแก้ปัญหาในจุดใดบ้าง ?
4. และตัวเรามีอะไรในการนำเสนอความคิดในการแก้ไขมั๊ย ?

เชิญเสวนา ...ค่ะ

ตอบข้อ 1

1.1 เป็นการหาผลประโยชน์ใส่ตัวบนผลประโยชน์ของชาติ เช่น โครงการการก่อสร้าง จัดซื้อ จัดจ้าง จากงบประมาณต่างๆ
เอาง่ายๆ เลยนะ คุณจะจัดซื้อครุภัณฑ์มาสักอย่างหนึ่ง ได้งบประมาณมาแล้วก็ต้องใช้ให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยการซื้อของที่มีคุณภาพดี
ไม่ใช่ซื้อของคุณภาพต่ำเพราะเห็นว่าราคาที่ซื้อถูกกว่า แล้วเอางบประมาณมากันไว้ใช้ส่วนตัว
ถ้าของมันใช้ไม่ดี ไม่มีประสิทธิภาพ แล้วงานที่ทำมันจะดีมั้ย

1.2 เป็นการเล่นพรรคเล่นพวก หาพวกพ้องตัวเองมาทำงานโดยไม่แคร์ศักยภาพของบุคคลที่มีอยู่จริง

1.3 เป็นการหลอกลวงเพื่อให้ได้ตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือการปฏิบัติงานต่างๆ เช่น ปลอมวุฒิการศึกษา แสดงรายงานผลการทำงานเป็นเท็จ ฯลฯ

1.4 การใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายกระทำการเพื่อประพฤติมิชอบ

ตอบข้อ 2
เป็นการกระทำที่บั่นทอนความเจริญของชาติ เพราะคนที่ไร้วินัยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย, การปฏิบัติงานที่ไม่มีประสิทธิภาพเพราะได้วัตถุที่มีคุณภาพต่ำ (ประมาณนี้)

ตอบข้อ 3
แก้ที่พวกเราก่อนเลย เพราะบางคนไม่เคร่งครัดกฎระเบียบ,กฎหมายต่างๆ(บางคนอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อกระทำการทุจริต) และที่สำคัญ เห็นแก่ตัว
เลิกนิสัยเห็นแก่ตัวให้ได้ก่อนนะครับ

ตอบข้อ 4
มีระบบตรวจสอบหน่วยงานที่เข้มแข็งกว่านี้ (อันนี้ต้องพึ่งใครหลายๆ คนแล้วครับ) สิ่งใดที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของหน่วยงานโดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณต้องโปร่งใส คือเปิดเผยให้ตรวจสอบได้ครับ **อย่าลืมว่า ตรวจสอบด้วยความเป็นธรรม ไม่ใช่จับผิดนะครับ

[ชาบูพระเทวทัก]

1. มองเรื่อง คอรัปชั่น ..ในแง่มุมไหน ?
พฤติกรรมพวกฉลาดแกมโกง ดูยังไงก้อัปรีย์ อย่าว่าแต่คอรัปชั่นระดับนักการเมือง หรือเอกชนอะไรเลย เอาแค่เด้กตัวเล็กๆโกงเงินสหายตนเอง ละโมบทุจริตให้คนอื่นเขาเดือดร้อนรังเกียจ ก็น่าตบเกรียนแตกแล้ว ส่วนระดับใหญ่อย่างการเมืองเนี่ยไม่ควรจะมีเลยเพราะเลือกให้มันเข้าไปทำงานแทน ต้องสละเงินให้มันเอาไปใช้โดยที่ผู้เสียภาษีไม่ได้ตัดสินใจ เอ้าอย่างกรรีที่ผ่านมาควายแดงเผา มันตายรัฐบาลออกให้ตัวที่บาดเจ็บเขาหัก เกรียนแตก ที่ตายอีกล่ะ เราไม่ได้อยากให้เอาภาษีเราไปช่วยมันแต่ก็ต้องทำอะไรแบบนี้ ควายก็ไม่ใช่ควายข้าวื้อมาตัวละ500 สองพันบ้างอะไรบ้างตามประโยชน์การใช้งาน ของเราก็ไม่ใช่ สรุปมันควายทักษิณ หรือเอาไปปรับปรุงถนนที่เราไม่ได้ใช้แถมด้อยคุณภาพ เอาไปแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านที่ยากจนเป็นรายๆบุคคลไปดีกว่า แล้งที่สำคัญเงินภาษีนี่มันไม่ใช่เงินเอ็ง เงินคนอื่นทั้งนั้น

2. คิดยังไงกะคอรัปชั่นในบ้านเรา ?
มีปัญหามากและก็คนส่วนมากจะกลัวอิทธิพลของพวกนักคอรัปชั่น ทำให้ไม่มีใครกล้าทำอะไร ถึงจะรู้ว่ามันโกงยังไง ทำให้อันดับการคอรัปชั่นโลกประเทสไทยติดอันดับต้นๆของโลก และกินกันมหากาฬช่างอัปลักษณ์ยิ่ง คนจะออกมาขับไล่เมื่อรอให้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มมากๆเข้าไว้ออกมาประนาม และต้องใช้เวลานานด้วยกว่าจะมีผล

3. อยากให้มีการแก้ปัญหาในจุดใดบ้าง ?
โอยยย เยอะแยะ - -
4. และตัวเรามีอะไรในการนำเสนอความคิดในการแก้ไขมั๊ย ?
ต้องการผู้กล้าหาญ ที่ทรงคุณธรรม ออกมาจัดการอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ถ้าให้มองดุแล้วมันลึกลงไปถึงระดับรากเหง้าเช่นทุจริต เพื่อช่วยญาติพี่น้องบุตรบิดาตายาย พฤติกรรมเห็นแห่พวกพ้องจะได้เครือญาตินิยม วัตถุนิยม ค่านิยมอะไรก็ตามเถอะ ตอนนี้ทางออกสุดท้ายคงเป็นย้ายประเทศ - -

[ppneer]

** กระทู้นี้ ...ขอเป็นการตั้งคำถามนะคะ
อยากทราบความเห็นของคนที่สนใจการเมือง...อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลาย
ว่ามีแนวคิดในการมองเรื่อง " คอรัปชั่น " ในมุมมองของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง

1. มองเรื่อง คอรัปชั่น ..ในแง่มุมไหน ?

[color=#000080]ไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์กรณ์
2. คิดยังไงกะคอรัปชั่นในบ้านเรา ?

เกิดจากการปลูกฝังของคนเฒ่าคนแก่ จนลูกหลานติดมา

จะด่ารุ่นหลานก็ไม่เต็มปาก

3. อยากให้มีการแก้ปัญหาในจุดใดบ้าง ? จุดเสื่อมทรามทางสังคม สิทธิและเสรีภาพมันเป็นสิ่งที่เห็นแค่ตัว

อยากให้ออกกฎหมายห้ามเสื้อแดง ระเมิดจริยธรรม
4. และตัวเรามีอะไรในการนำเสนอความคิดในการแก้ไขมั๊ย ?จงดีใจที่ได้เกิดในประเทศที่มีพระมหากษัตริย์และมีศาสนาพุทธ[/color]

เชิญเสวนา ...ค่ะ

[ริวมะคุง]

คนไทยส่วนมากติดนิสัยขี้โกงเมื่อมีโอกาศ เรื่องจะแก้ไขมันต้องมีตัวบทกฎหมายที่เข้มงวด เพื่อที่จะบังคับ ไม่ให้กระทำผิดมิชอบ เรื่องจะให้สอนห้ามคอรัปชั่นคงยาก มันฝังในสันดารแล้วครับ

[กรกช]

ผมขอแสดงความเห็นแบบรวมๆนะครับ

ปัญหาคอร์รัปชั่น ที่ซึมลึกอยู่ในสังคมไทย ชนิดมองหาทางออกแทบไม่เจอ
สำหรับความคิดผม ไม่ว่าปัญหาใดๆในประเทศ ที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์

ผู้ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆนั้นได้ ก็คือ ผู้บริหารประเทศ

สำหรับปัญหาคอร์รัปชั่นนั้น

การสร้างจิตสำนึก การปลูกฝัง การสร้างแบบอย่างที่ดี
อำนาจในการแก้ไขกฎหมายต่างๆ เพื่อควบคุม ลงโทษ
อำนาจสั่งการต่างๆต่อผู้ใต้บังคับบัญชา
การกำหนดนโยบายปราบปรามอย่างจริงจัง อยู่ที่พวกเขา

แล้วความจริงเป็นอย่างไร ?

ผู้ที่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหานี้กลับเป็นเสียเอง แถมอาการหนักกว่าชาวบ้าน

เจตนาของทุกพรรคการเมือง ที่ยอมลงทุนมากๆในการเลือกตั้ง
ก็เพื่อต้องการเป็นรัฐบาล เพราะต้องการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์

ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงของประเทศ มันเริ่มจากจุดนี้

ถ้าจะแก้ ก็ต้องแก้ตั้งแต่จุดนี้

ที่ผ่านๆมา เราแก้ที่ปลายเหตุ คือ ปล่อยให้พวกเขาเข้ามา แล้วคอยตรวจสอบเอาผิด
ซึ่งเป็นไปได้ยาก เพราะใครเป็นรัฐบาล ก็มีอำนาจแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบ
แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมต่างๆได้

เปลี่ยนแปลงการปกครองมา 78 ปี มีนักการเมืองติดคุกเพราะคดีทุจริต 2 คน คือ คำตอบ

เมื่อเป็นแบบนี้ ใครจะกลัว

นักการเมืองโกง ก็เพราะ เขาตั้งใจมาโกง
คนกล้าโกง ก็เพราะไม่กลัวความผิด

ก็ต้องมาคิดว่า ทำอย่างไร ให้เขากลัวความผิด ไม่กล้าเข้ามาโกง

สำหรับความคิดผม มีอยู่ 2 ข้อ ที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหานี้

1. กระบวนการตรวจสอบเอาผิด กระบวนการยุติธรรม ที่ซื่อตรง ไม่มีใครสามารถแทรกแซงได้
2.กฎหมายลงโทษที่รุนแรงมากๆ นักการเมืองทุจริต ต้องประหารสถานเดียว

แต่จะทำอย่างไร ที่จะทำให้ 2 ข้อนี้เกิดขึ้นจริงนี่ซิ คือปัญหา
เพราะถ้าจะรอให้นักการเมืองแก้กฎหมายลงโทษตัวเองให้รุนแรง คงเป็นไปไม่ได้

แต่ถ้าประชาชนจะมีโอกาสได้คิด ได้เสนอ
ได้มีโอกาสร่างข้อกฎหมายบางข้อ ที่มาจากความต้องการประชาชนจริงๆ

โดยที่ฝ่ายการเมืองไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวตรงนี้ได้

ก็พอเห็นแสงสว่างในการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นบ้างครับ

[see-u]

** ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่เข้ามาตอบค่ะ ...

ถ้าให้พูดกันตรง ๆ ..ดิฉัน ตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกะเรื่องนี้ไว้ 3 ที่
คือ เว็บ .net , เว็บ .org และ ใน fb
ตอนนี้กำลังไล่อ่านในแต่ละคำตอบที่ทุก ๆ ท่านจากในทุกเว็บที่ตั้งไว้อยู่
อาจจะไม่ได้แสดงความเห็นลงไป ..
สำหรับท่านใดที่มีความเห็น ..เพิ่มเติม เชิญเขียนได้นะคะ

พรุ่งนี้ ถึงวันที่ 13 ..ดิฉัน มีโอกาสได้เข้าประชุมกะทาง IACC ที่ศูนย์ประชุม สิริกิตต์
ซึ่งเป็นประชุม " คอรัปชั่นโลก " ที่ปีนี้จัดขึ้นในประเทศไทย
ซึ่งตรงนี้ได้รับโอกาสจากทางภาคประชาชนบางท่าน ..เขาให้มา

ถ้ามีโอกาส ( ซึ่งก็คงมีแหละ ) ...
ดิฉัน ..จะนำบางส่วนในแต่ละความเห็น ไปให้ที่ประชุมด้วยค่ะ
........................... ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะคะ

[see-u]

** เข้ามาอัฟข้อมูลนิดนึงค่ะ ..

เนื่องจากวันนี้ ..วันที่ 10 พ.ย
ดิฉัน ..ได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมในงาน " คอรัปชั่นโลก " ที่จัดเป็นครั้งที่ 14
และปีนี้ ... เป็นครั้งแรกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน
งานนี้จะมีการประชุมต่อเนื่องกันตั้งแต่วันที่ 10 - 13 พ.ย ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ สิริกิตต์

จากคำเชิญไปทั้งหมด 180 กว่าประเทศทั่วโลก
มีคำตอบรับในการเข้าประชุมทั้งหมด .. 131 ประเทศ
ในงานนี้เท่าที่พอจะทราบมา ..มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 1,200 คน
เป็นคนไทยที่เข้าร่วมประมาณ 200 คน ( ซึ่งรวมถึง จนท. ด้วย )
ส่วนที่เหลือคือตัวแทนในองค์กรต่าง ๆ จากแต่ละประเทศ...
ที่เขาส่งมาเพื่อเข้าร่วมประชุมในเรื่องนี้โดยเฉพาะ

ก่อนอื่น ..ดิฉัน ขอเขียนขอบคุณ " รศ.ดร. จุรี วิจิตรวาทการ "

ซึ่งเป็นหนึ่งในผุ้จัดงานร่วมกะกระทรวงยุติธรรม..และเครือข่ายภาคีจากประเทศต่าง ๆ
ที่กรุณาให้การสนับสนุน ..ภาคประชาชน ให้เข้าร่วมในการประชุมในเวทีโลก ในครั้งนี้

และขอบคุณทาง " กรมราษฎร์ส่งเสริม " ...
ที่ให้โอกาส ดิฉัน ..ในส่วนของ " โควต้า " ที่คัดเลือกบุคคลเข้าไปในส่วนของผู้เข้าร่วมประชุม
ขอบคุณ .....ที่ให้ โอกาส ดิฉัน
ซึ่งมีวัยวุฒิ , คุณวุฒิ , และ ประสบการณ์ ไม่มากมายเท่ากะท่านอื่น ๆ
ที่ขับเคลื่อนและเคลื่อนไหวในเรื่องต่าง ๆ มานาน ...
ได้ไปเรียนรู้และได้เข้าไปมีประสบการณ์ในการประชุมครั้งนี้

IACC เป็นเวทีโลกที่เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนและองค์กรต่าง ๆ
เข้าร่วมในการประชุมแก้ไขปัญหาคอรัปชั่น ...
ซึ่งในแต่ละประเทศ ..จะเจอปัญหาต่างกัน และ ปัญหาคล้ายกัน
ซึ่งในเรื่องนี้ทาง " สหประชาชาติ " ก็เข้ามามีส่วนร่วม
และมีการประสานงาน คอนเน็ค กันในประเทศต่าง ๆ ที่เป็นภาคีเครือข่าย


เข้าไปดุลิงค์ของ IACC ได้ที่ >> http://14iacc.org/about/history/_lang/th/

รายละเอียดต่าง ๆ ในการประชุม รวมถึงภาพในงานและข้อมูลต่าง ๆ
ดิฉัน ..จะทยอยมาอัฟข้อมูลให้เท่าที่ตัวเองพอจะรวบรวมได้
ในโพสนี้อาจจะไม่ได้เขียนรายละเอียดลงมากนัก ..
แต่จะทยอยใส่ข้อมูลลงไปเรื่อย ๆ ในรายละเอียดต่าง ๆ นะค่ะ
วันนี้ ..ขอตัว เพราะ เหนื่อย !! และพรุ่งนี้มี เวิรค์ช๊อฟ

และท่านใด ..ที่จะแสดง คห. ในมุมมองต่าง ๆ เกี่ยวกะเรื่อง " คอรัปชั่น "
เหมือนเดิมในคำพูด คือ ..เชิญแสดง คห. ได้นะคะ
เพราะในงานนี้ ..ในส่วนของคนไทยที่เข้าร่วม มีทั้งบางท่านจาก ป.ป.ช. จากทาง สว.
และ หลาย ๆ ท่านที่มีบทบาทเป็นประธานเครือข่ายต่าง ๆ ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
( ถ้ามีโอกาส ..ใน 4 วันที่เข้าประชุม ..ดิฉัน จะเอา คห. ดี ๆ ของพวกคุณไปให้บางท่านอ่านค่ะ )

** หมายเหตุ 1. วันนี้พระองค์ท่าน โสมสวรี ได้เสด็จมาเปิดงานเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.
** หมายเหตุ 2 : เจอ พี่มาร์ค ตัวเป็น ๆ ไม่เห็นจะแก้มยุ้ยเหมือนภาพที่ถ่ายออกมาเลย
ตัวจริง .. ดูดี บุคลิคดี >>และหลาย ๆ ประเทศชื่นชม พี่มารค์ มากนะ
ส่วน อ. ปณิธาน ..ที่คุณ noway2know ชื่นชมเห็นแบบไหนก็เป็นแบบนั้น เป๊ะ

[see-u]

** นำรายละเอียดคร่าว ๆ จากงานวันแรกใน โพสทูเดย์ มาให้กันก่อนนะคะ

ประเทศไทย ..ในวังวนธุรกิจ
http://www.posttoday.com/วิเคราะห์/สดจากสนาม/59287/ประเทศไทยในวังวนทุจริต

** หมายเหตุ : ในงาน " คอรัปชั่นโลก " จัดเป็น 2 ส่วน คือ ในส่วนที่เป็นองค์กรต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม
และ ในส่วนของ นิทรรศการ ที่จัดไว้
ในส่วนของ นิทรรศการ ..ประชาชน ทั่วไปสามารถเข้าไปชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ

** IACC ชี้ไทยติดอันดับ 78 โกงทั่วโลก หวังพึ่งภาค ปชช.ช่วยตรวจสอบ
อันนี้เป็นข่าวจากทาง manager มีรายละเอียดย่อยบางส่วนของงานที่ทางโพสทุเดย์ไม่ได้ลงไว้ !!
http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 0000159104

** หมายเหตุ : manager ลงจำนวนวันที่ประชุมผิด
การประชุมมีทั้งหมด 4 วัน คือ วันที่ 10 ถึงวันที่ 13 ไม่ใช่ถึงวันที่ 14
และในส่วนของย่อหน้าสุดท้ายที่เขียนว่า ..จำนวนผุ้เข้าชมบัตรเข้างานไม่พอ
ทำให้พิธีเปิดต้องล่าช้ากว่ากำหนดไปเกือบ 30 นาที
ต้องยอมอะลุ้มอล่วยให้ร่วมงานก่อน ค่อยมาแลกบัตรเข้างานภายหลัง
ตรงนี้ไม่รู้ไหนส่วน ? เป็นส่วนของ นิทรรศการ หรือในส่วนที่เข้าประชุม
ถ้าเข้าประชุม : ตรงนี้ รายชื่อต่าง ๆ ของผู้ที่ได้เข้าไปตรงนั้นถุกแจ้งและส่งไปล่วงหน้าแล้วค่ะ
วันที่ 9 พ.ย ในช่วงบ่ายเปิดโอกาสให้ผุ้เข้าประชุมที่อยุ่กรุงเทพ มาลงทะเบียนเข้างานไว้ก่อน
และ วันที่ 10 พ.ย ...ในส่วนของผุ้เข้าร่วมจากต่างประเทศ รวมถึง จาก ตจว. มาลงทะเบียน
ผู้ร่วมประชุมจะต้องลงทะเบียน รับข้อมุลเอกสาร และถ่ายรุปก่อนเข้างานทุกคน ... ค่ะ

** เมื่อวานงานแบ่งย่อย ๆ เป็น 3 ช่วง คือ พิธีเปิดงานในช่วงเช้า
ซึ่งตัวแทนแต่ละองค์กรจากแต่ละประเทศ รวมถึง นายก ได้กล่าวแสดง คห.
ซึ่งในวันแรกเป็นการพูดคุยโดยรวมในเรื่องต่าง ๆ
ส่วนตัว ดิฉัน คิดว่า..ในวันหลัง ๆ คงลงลึกในรายละเอียดมากกว่านี้

** ช่วงที่ 2 หลังพักเบรคทานกาแฟ , ทานอาหารเที่ยง , เป็นการว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน
รวมถึงเรื่องของการ ฟอกเงิน ( รายละเอียดต่าง ๆ จะเรียบเรียงให้ทีหลังในโพสต่อไปค่ะ )

** ช่วงที่ 3 คือช่วงเย็น ..หลังพักเบรคทานอาหารว่าง
การเป็นการเวริค์ช๊อฟโดยให้ผู้เข้าร่วมเลือกที่จะเข้าประชุมในห้องต่าง ๆ จาก 4 หัวข้อใน 4 ห้อง
ซึ่งหัวข้อในการเวริค์ช๊อฟ ..จะเปลี่ยนทุก ๆ วัน

** จริง ๆ แล้วเมื่อวานมีโอกาสได้เจอหลายท่าน ...
ไม่ว่าจะเป็น ประธาน สว. ไพบูลย์ , คุณ รสนา , ดร. ต่อตระกูล ยมนาค , คุณ สัก กอแสงเรือง
คุณ จุฬา สุวรรรณทัต ( ถ้าเขียนสะกดตัวหนังสือในชื่อผิด ขออภัย ด้วยค่ะ )
ประธาน คปต. ( เครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น )
ดร. กนกกาญจน์ ( ซึ่งทำโครงการ : " เด็กไทยโตไปไม่โกง " )
และอีกหลาย ๆ ท่าน ..ที่มีบทบาทในการเคลื่อนไหวจากทางภาคประชาชน
ซึ่งท่านเหล่านั้น ..ก้เข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง
ก็หวังว่าจะเห้นโอกาสที่ดีการขับเคลื่อนในเรื่องต่าง ๆ จากโอกาสนี้

** หมายเหตุ : ดิฉัน ว่าผู้เข้าร่วมประชุมจะพูดว่า ประเทศตัวเอง คอรัปชั่น กันสุด ๆ ทั้งนั้นนะ

[tita_pw]

มีทุกยุคทุกสมัยการคอรับชั่น แต่ไม่น่าจะให้เกิดขึ้นในเมืองไทยเล้ย

ประเทศชาติจะเจริญได้อย่างไร ถ้าข้าราชการไทยคอรับชั่น

[see-u]

** ขอบคุณมากค่ะ ..สำหรับทุก คห. เพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน ..เมื่อกี้

ในช่วงนี้ ..อาจจะไม่ได้เข้ามาอัฟข้อมูลนะคะ ( ขอเขียนคร่าว ๆ ในบางส่วนเอาไว้ )
ข้อมูลต่าง ๆ ในส่วนของรายละเอียดบางอย่าง และ ข้อมูลในแบบเนื้อหาเต็ม ๆ จะทยอยลงให้วันหลัง

วันนี้ ..ช่วงบ่ายมีโอกาสได้นั่งคุยกะ อ. ศรีราชา เจริญพาณิชย์ >> ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
และ ผู้จัดงานร่วม IACC ร่วมกะกระทรวงยุติธรรมและภาคีเครือข่าย
คือ " รศ.ดร. จุรี วิจิตรวาทการ "

ซึ่งกรุณาให้เกียรติร่วมคุยแลกเปลี่ยน คห.
รวมถึง หลาย ๆ ท่านไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจากสื่อเกือบทุกสื่อ , คณะอนุ , สว. บางท่าน
องค์กรเคลื่อนไหนในภาคธุรกิจ , เคลื่อนไหวในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ , นักวิจัย
และอีกมากมายหลาย ๆ ท่าน , คนเก่งจาก ปตท. ก็มี

ดิฉัน ..แนะนำ ตนเองว่ามาจากบอร์การเมืองเสรีไทย .org และ .net รวมถึงเฟสบุ๊ค
และเป็นในส่วนของภาคสนามในบางเรื่องที่ออกมาทำในภาคปฏิษัติจริง
ที่ได้รับโอกาสจากทาง " กรมราษฏร์ส่งเสริม " ที่ให้โอกาส ดิฉัน เข้าร่วมงานครั้งนี้

ซึ่งตรงนี้ ...ต่อจากนี้ คงมี อ. หลาย ๆ ท่านเข้ามาอ่าน คห. ที่นี้

จากคำแนะนำและที่ ดิฉัน ให้ลิงค์เว็บเอาไว้กะพวกเขา...
ในข้อมูลรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ และ ภาพถ่ายในงานจะเอามาอัฟลงให้หลังวันปิดงาน

งานนี้ขอชมรัฐบาลและทางศนูย์ประชุมสิริกิตต์ ..ที่จัดงานได้ดีมาก
หลาย ๆ ประเทศชมในเรื่องของความพร้อม
มีทั้ง สส. ( จากต่างประเทศ ) รวมถึง สว. และบุคคลจากองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ มากมายเข้าร่วม

สำหรับท่านใดจะแสดง คห. เพิ่มเติม
ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นตามโจทย์ที่ตั้งไว้ ...จะเขียนในเรื่องอื่นก็ได้นะคะ
และ ดิฉัน คงไม่ปริ๊นเป็นเอกสาร ..แต่จะเลือกส่ง คห.ที่น่าสนใจไปให้ ดร. เหมียว
ผู้ประสานงานนี้ และเป็นเลขา รศ.ดร. จุรี โดยตรงทาง อีเมล์
หรือถ้าพวกคุณมีคำถามใด ..เขียนทิ้งไว้ได้
ดิฉัน ..จะเข้ามาอ่าน คห. จากสถานที่จัดงาน ( เพราะเขามีบริการ อินเตอร์เน้ท ให้ใช้ )

ซึ่งตรงนี้ ..ต่อจากนี้ในส่วนของเรื่องอื่น ๆ ในถ้ามีประเด็นใดน่าสนใจใน คห. ต่าง ๆ ไม่ว่าเรื่องอะไร
จะนำ คห. ของหลาย ๆ ท่านที่น่าสนใจ จากที่นี้ ...
ส่งไปให้หลาย ๆ ท่านที่ได้รับอีเมล์ในการคอนเน็ทกันในวันนี้ค่ะ
( เหตุผล คือ ..ในกลุ่มบอร์ดการเมือง มีหลายท่านมากที่มีความเห็นและข้อมูลที่ดี
ถ้าเอาข้อมุลเหล่านี้ไปให้หลาย ๆ ท่านที่มีบทบาทโดยตรงได้ ..
ดิฉัน ก็อยากให้ คห. พวกคุณส่งตรงไปที่พวกเขานะ!! )

[chanee]

corrupt แปลว่า เสียหาย ใช้การไม่ได้

corruption (การเมือง) แปลว่า การทุจริต ที่ทำให้เสื่อม จะเป็นผลให้การเมือง เน่าเฟะ ( corrupted )

[FFG421]

ผมคนนึงละครับที่ต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ และจะสร้างให้ชาติรุ่งเรือง ให้ชาติทะเยอทะยานทั้งเศรษฐกิจ เทคโนโลยี การทหารครับ

[see-u]

** ปิดฉากไปแล้วสำหรับงาน " คอรัปชั่นโลก " ที่จัดขึ้นในประเทศไทย
และจะมีขึ้นอีกครั้งที่ประเทศ " บราซิล " ในอีก 2 ปีข้างหน้า ...
ขอนำภาพบางส่วนของผู้เข้าร่วมงานและบรรยากาศภายในงานมาลงแบบคร่าว ๆ ก่อน..นะคะ
ในส่วนของเนือหารายละเอียด ..จะสลับกับการนำภาพมาลงเป็นระยะ ๆ



- ตัวแทนจากองค์กรหลักต่าง ๆ ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนและเป็นภาคีเครือข่ายร่วมเป็นเจ้าภาพ
ตัวแทนจากเวิลด์แบงค์ ( คนที่ 2 ทางซ้ายมือ ) ได้กล่าวถึงบทบาทของเวริลด์แบงค์ในเรื่องเกี่ยวกะคอรัปชั่น
ว่าทางเวริลด์แบงค์เองพร้อมจะให้ความร่วมมือ..กับนานาประเทศ
และไม่ให้การสนับสนุนธุรกิจ..และจะไม่ได้รับอนุญาตในการทำธุรกรรมทางการเงิน
ถ้าตรวจสอบพบว่าบริษัทนั้น ๆ มีเอี่ยวกะธุรกิจการคอรัปชั่น
ทุกประเทศจากภาคีเครือข่ายล้วนมีความเห็นตรงกันว่าคอรัปชั่นคือปัญหาหลักที่ต้องได้รับการเยียวยาแก้ไข







- ในส่วนของวันเปิดงานวันแรกในช่วงบ่าย ..มีการว่าด้วยเรื่องของ สิทธิมนุษยชน
รวมถึง ..การกล่าวถึงเรื่องของ " คอรัปชั่น " มีส่วนในการก่อให้เกิดอาชญากรรมหรือก่อการร้ายได้
เพราะทุกอย่างเป็นวัฏจักรและเชื่อมโยงกันหมด ... ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการค้ายาเสพติด
รวมถึงการทำลายสันติภาพและความมั่นคง ........................

- จริง ๆ แล้วมีประเด็นที่สนใจคือ เรื่องของการฟอกเงิน ..
การปรับภาษี และการออก กม. ภายในประเทศ ...
อาญชญากรรมที่เป็นองค์กร รวมถึงศุลกากร..
แต่โดยส่วนตัว ดิฉัน มองว่าเป็นการพูดแค่เพียงผิวเผิน
เพราะไม่มีการเจาะลึกลงไปว่า..ในองค์กรภาคีเครือข่ายจะรวมตัวกันในเรื่องของการแก้ปัญหาการฟอกเงิน
จากอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้อย่างไร ? ( ตอนนั้น .. นึกถึง ไอ้แม้ว อ่ะ )

หรือว่าถ้ามี..ก็ต้องโทษ " ผู้แปลภาษา " ต่าง ๆ ผ่านหูฟังที่ทำให้ ดิฉัน ไม่ get

** หมายเหตุ : ถ้าผู้ร่วมงานท่านใดมีข้อมูลตรงนี้ช่วยส่งมาให้อ่านด้วยนะคะ

[see-u]

** สำหรับผู้มาร่วมงานในครั้งนี้ ..ขอนำภาพมาลงในบางส่วน นะคะ
เพราะพวกเขามี ศักยภาพ ในการเคลื่อไหวเพื่อต่อต้านการคอรัปชั่นในบ้านเรา



- จากทางขวามือของภาพ รศ.ดร. จุรี วิจิตรวาทการ ( เสื้อสีฟ้า )
ที่กรุณาเปิดโอกาสให้ภาคประชาชน ..เข้ามามีส่วนร่วมในงานนี้
ถัดมาคือประธานของ IACC และ นายก ..



- ซ้ายมือคนแรก คือ ประธาน สว. ไพบูลย์ , คนถัดไป คือ คุณ สมชาย แสวงการ ก็เข้าร่วมประชุม



- ศ.ดร.ศรีราชา เจริญพาณิชย์ ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ( คนที่ 2 จากภาพทางซ้ายมือ )
แลกเปลี่ยนพูดคุย กะ คุณ รสนา โตสิตระกูล ( สว. น้ำดีอีกคนหนึ่งในเมืองไทย )



- หนุ่มหล่อ ..เลือดใหม่ไฟแรงจาก ปตท. มล. กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ( สูทสีเทา )
กำลังแรกเปลี่ยนสนทนากะ ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ...( คนขวามือสุด )
มีโอกาสได้คุยแลกเปลี่ยนกะคุณกร ในบางเรื่องของ ปตท. ทำให้รู้ข้อมูลบางอย่างมากขึ้น
( รายละเอียดว่าคุยอะไร ขอไม่เขียนลงไปนะคะ..)

[see-u]

** ใน 2 - 3 โพสต่อจากนี้ ..
ขอเป้นเรื่องในการอัฟภาพผู้มาร่วมงาน + บรรยากาศภายในงานลงเพิ่มเติมในบางส่วนก่อน นะคะ
ซึ่งคงไม่สามารถนำภาพของทุกท่านมาโพสได้ทั้งหมดในกระทู้..
และถ้าเข้ามาโพสไม่ต่อเนื่อง .. ก็ขออภัยด้วย



- คุณ กล้าณรงค์ จันทิก ก็มาร่วมด้วย ..
ส่วนคนที่ยืนข้าง ๆ คุณ กล้าณรงค์ คือ คุณ ประเทือง ปรัญพฤกษ์
ซึ่งเปิดโอกาสให้ ดิฉัน ได้มีประสบการณ์เพิ่มเติมจากงานนี้ ..
(( ขอบคุณมากค่ะ ))



- เริ่มจากทางซ้ายมือ คือ คุณ ณัชพล ( ผุ้สื่อข่าวจาก ทีนิวส์ ) , คุณ สมลักษณ์
คุณ ปรีดา เตียสุวรรณ ( ใส่สูทสีครีม ) , คุณ ประเทือง ( กรมราษฏรส่งเสริม )
คุณ สุรางค์ หนึ่งในคณะอนุฯ( รองอธิบดีกรมราชฑัณน์ ซึ่งเกษียรราชการแล้ว แต่มีใจในการต่อต้านคอรัปชั่น )



- คุณ ประสาร มฤคพิทักษ์..แวะมานั่งคุยด้วยที่โต๊ะอาหาร
และแลกเปลี่ยนข้อมูลกะพี่อ้อย จินดารัตน์ ศักดิ์สุภา
( ทำเรื่องครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เผาบ้าน )



- ซ้ายมือ คุณ อิทธิกร อมรชินธนา จากกลุ่มหินล้อม ( สุรินทร์ ) ซึ่งต่อสู้ในเรื่องของป่า เจ้าของรางวัล ...
และคุณ ปราโมทย์ นาครทรรพ กรุณานำหนังสือ " ช่วยด้วย ! ไฟไหม้มหาดไทย " มาให้
ซึ่งคาดวว่าผู้ใหญ่และผู้ร่วมงานหลาย ๆ ท่าน ...คงจะได้รับหนังสือเล่มนี้ในงานแล้ว





- คุยกันรอบนอก ..ระหว่างสมาชิก 20 กว่าองค์กรในแต่ละเครือข่าย

[integra]

[see-u]

** ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีการอัฟภาพในงานบางส่วนลงในยุทูปกันแล้ว ..
ขอเอาบางส่วนมาให้ดูนะคะ ..คงจะได้เห็นภาพรวมของงานในอีกรูปแบบหนึ่ง
มากกว่าการนำภาพมาลงและเขียนบรรยาย



--- บรรยากาศโดยรวมของงานในวันแรก + ภาพในห้องประชุมใหญ่



--- คลิ๊ปตรงจาก ฮิลลารี ที่กล่าวถึงเรื่องคอรัปชั่น
ในช่วงเปิดในงาน IACC ครั้งที่ 14 ในประเทศไทย



--- คลิ๊ปในช่วงเปิดงาน..ที่ตัวแทนจากแต่ละองค์กรร่วมเป็นสักขีพยาน



--- ความคิดเห็นจากผู้ร่วมงาน ...
ในช่วงเวลาที่ 0.15 คือ คุณ Penny Bright จาก NEW ZEELAN : คนนี้มันส์มาก
เธอมีคำถามในห้องประชุมหลายคำถาม...มีอยู่ประโยคหนึ่งเธอพูดถึงรัฐบาลของเธอในห้องประชุม
ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกะคอรัปชั่นจำไม่ได้แระว่าเธอวิจารณ์เรื่องอะไร ..
แต่ลงท้ายด้วยประโยคที่ว่า เมื่อไหร่รัฐบาลนิวซีแลนด์จะจัดการปัญหานี้เสียที
ซึ่งมันไม่ต่างไปจากที่หลาย ๆ ประเทศที่เข้าร่วมต่างพูดถึงปัญหานี้ ...
ว่าปัญหาต่าง ๆ มาจาก " อิทธิพลทางการเมือง " เองนะแหละ

ส่วนเวลา 2.34 ในคลิ๊ป คือ ดร. กนกกานต์ ( หรือ ดร. เหมียว )
เจ้าของโปรเจค : เด็กไทยโตไปไม่โกง : ผู้ประสานงานนี้ และเป็นเลขา รศ.ดร. จุรี ค่ะ



--- บางส่วนจากผู้ร่วมงาน..และการตอบคำถาม
ในช่วงที่เปิดโอกาสในการซักถามวิทยากรซึ่งเป็นตัวแทนจากแต่ละประเทศจากแต่ละองค์กร..
จากห้องประชุมใหญ่ ... ( ในทุก ๆ ห้องประชุมจะเปิดโอกาสให้มีการซักถามค่ะ )

[we love the king]

คอรัปชั่นป็นปัญหาโลกแตก ไม่ใช่ว่าจะแก้กันง่ายๆ ที่หน้าจะทำก็คงต้องมีการสร้างจิตสำนึก

ให้ผู้คนในสังคมเป้นคนที่รังเกลียดการโกงกิน รู้จักรักกฎกติกา ไม่ละเมิดคิดทำผิดกฎหมาย

อย่าแค่เรื่องกฎจราจร ถ้าคุณทำผิด เมื่อถูกจนท.เรียกตรวจจับแต่ไม่อยากถูกลงโทษบางคนก็คิดเอาทรัพย์เอางินให้จนท.

แต่ถ้ายอมการทำผิดของตน ยอมเสียเงินค่าปรับให้กับทางการ ทำอะไรให้ตรงไปตรงมา เริ่มต้นที่ตนเอง คือต้องสร้างจิตสำนึกไม่คิด

จะทำความผิด และไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ทำผิด เอาช่องโหว่ของกม.มาหากิน ต้องแก้กันที่คนเริ่ม พวกชอบติดสินบนเจ้าพนักงานนี่ก็สำคัญเลย เป็นตัวจักรแรกๆที่ทำให้เกิดการทำผิดคอรัปชั่น พวกอย่างสะดวก อยากได้เร็วกอ่นคนอื่นไม่เคารพกฎกติกา

ถ้าเป็นการคอรัปชั่นแบบกินตามน้ำก็ยังพอรับได้ แต่ประเภทโกงกินตั้งโปรเจคกันมากินเลยกินแบบรวยอยู่ตระกูลเดียว ไม่กี่ปีก็รวยเละพอหมดอำนาจวาสนาไปก็ยังไม่ยอมเลิก หวังจะกลับมาสู่อำนาจทางการเมืองอีก โลภอย่างนี้ไม่ไหว มันเล่นโกงกินจนปท.ไม่เหลือ สาปส่งอย่าให้มันกลับมาครองเมืองอีก อย่าเปิดโอกาสให้คนชั่วได้ครองเมือง บ้านเมืองจะสงบสุข

[see-u]

** ค่ะ ...หลังจากที่ไม่ได้เข้ามาโพสเนื้อหาเพิ่มเติมในกระทู้หลายวัน
วันนี้ขออัฟรูปเพิ่มเติม ....ส่วนใครบางคนที่เข้ามาดูแล้วไปบ่นในทู้อื่นว่า
ทู้นี้มีแต่รูปเปิปข้าวมาลงให้ดู + เปิดห้อง เซล่ง เซเลป ซ่ะเลยสิย่ะ อะไรนั่นก็ไม่เป้นไร นะจ๊ะ
แบบว่า .... จะเอารุปมาลงต่อเรื่อย ๆๆๆๆ



- ศ.ดร. ศรีราชา เจริญพาณิชย์ รับฟังและแลกเปลี่ยนความเห็นกะทาง รศ.ดร. จุรี
ส่วนพี่คนที่ยืนอยู่ข้างหลัง คือ ( พี่หน่อย ) ..จิรารัตน์
พี่คนนี้ถึงจะดู ไฮโซ : แต่เขาคือคนที่ใช้เวลาส่วนตัวไปสอนภาษาอังกฤษให้กะผู้หญิงแถว ๆ พัฒพงศ์ นะคะ
เพื่อให้พวกเธอเหล่านั้นมีความรู้มากขึ้น รวมถึง สอนหนังสือให้เด็กเล็ก ๆ บางคนที่ด้อยโอกาสด้วย



- คนนี้ไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร ... คงพอจะรู้
เมื่อวานที่รัฐสภา.. มีงานเสวนาเรื่อง 11 โครงการ มาตรา 67 วรรค 2 แต่มาไม่ได้
คงเพราะเหนื่อยและพักผ่อนน้อยจากการประชุมหลายวัน



- บรรยากาศในช่วงพักรับประทานอาหาร ...
เจ๊ Penny Bright จาก NEW ZEELAN ในมาดขึงขัง
ไม่แน่ใจว่า .. เธอเป็น นายกเทศมนตรี หรือ ถูกเสนอชื่อให้ลงสมัคร
แต่มุมหนึ่งที่มองเห็น คือ เธอ เป็นคน เฟลลี่ และ กล้าคิด กล้าพูด ...น่ารักดี



- ดร. สุภาพ และ คุณ กิตติพงศ์ ..จาก USIAD ( คาดว่าคงเป็นในส่วนของ เอเซีย )
USIAD คือ อีกหนึ่งองค์กรที่อยุ่ในส่วนของผู้ร่วมกะ IACC



- คุณ เจตน์ อริยะสมบัติ .. เจ้าของรางวัล พูลิตเซอร์ ที่ทำในเรื่องของ แม่เมาะ จนชนะ
หนึ่งในกลุ่มพี่ ๆ ใจดีหลาย ๆ ท่าน ... ที่ช่วยเทรนและให้ความรู้กะ ดิฉัน ที่เป็นน้องใหม่



- บรรยากาศสบายในช่วงพักเบรคก่อนเข้าประชุมในห้องเล็ก ..
ที่เปิดโอกาสให้แต่ละคนทักทาย คุย แลกเปลี่ยนกัน