โต๊ะ ให้คะแนนสอบตก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2553 06:43 น.
โพลนักธุรกิจ แฉรัฐบาล "มาร์ค" ทุจริตหนักสุดรอบ 3 ปี ปัญหาคอร์รัปชั่นในวงราชการ-นักการเมือง ยิ่งแก้ยิ่งวุ่น อึ้งจำนวนเกือบ 80% เคยจ่ายใต้โต๊ะในอัตราเฉลี่ย 25% ของมูลค่างาน อัดรัฐบาลสอบตกแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ คอร์รัปชั่น สังคม การศึกษา รายได้ หนี้นอกระบบ
นส.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิด เผยผลสำรวจ "ทัศนคติต่อสถานการณ์การทุจริตคอรัปชั่นของไทย เทียบกับ 3 ปีที่ผ่านมา" ในงาน หอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 28 ที่ โรงแรมพูลแมนขอนแก่น ราชาออคิด จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า สถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่าช่วง 3 ปีก่อน และจำนวนกว่า 79.7% ยอมรับว่าเคยจ่ายเงินพิเศษให้ข้าราชการและนักการเมืองเพื่อให้ได้สัญญาธุรกิจที่ทำกับภาครัฐ โดยต้องจ่ายมากถึง 25% ของมูลค่าสัญญาที่รับงานมา
ขณะที่นักธุรกิจจำนวน 16.3% มองว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจำนวน 15.7% เห็นว่าเท่าเดิม ส่วนที่เหลือ 5.6% เห็นว่าลดลงเล็กน้อย นอกจากนี้ สำหรับผลสำรวจในหัวข้อ ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจกับภาครัฐจะต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษแก่ข้าราชการ นักการเมืองที่ทุจริต เพื่อให้ได้สัญญาหรือไม่ นักธุรกิจส่วนใหญ่ 79.7% มีการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ จำนวน 14.8% ไม่ทราบว่าจะต้องมีการจ่ายเพิ่มพิเศษ และร้อยละ 5.5 ไม่มีการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ ในกรณีที่มีการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ ส่วนใหญ่ 30.6% มีการจ่ายเงินมากกว่า 25%
นส.เสาวณีย์ กล่าวอีกว่า ผลการสำรวจความเห็นประเด็นที่ว่า ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นของไทย เป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตามในประเด็นการมีส่วนร่วมในการป้องกัน และต่อต้านการทุจริตคอรั่ปชั่นนั้นนั กธุรกิจอยากมีส่วนร่วมแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะความจำเป็นทางธุรกิจ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่าปัญหาคอรับชั่น เป็นปัญหาเรื้อรังที่สะสม และรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ แม้ว่าปีที่ผ่านมาไทยจะเริ่มขยับอันดับการคอรัปชั่นไปในทางทิศทางบวก แต่คะแนนที่วัดผลดีขึ้นเพียงเล็กน้อย
ส่วนข้อเสนอ หอการค้าจะรับกลับไปทบทวน และทำการศึกษา แต่ในเรื่องนี้คงไม่ใช่รัฐเพียงฝ่ายเดียวที่จะแก้ไขได้ โดยเฉพาะ การทุจริตการจัดซื้อ จัดจ้างในหน่วยงานราชการ ถ้าสามารถตั้งราคากลางได้ตามมาตรฐานจริงก็จะไม่มี การทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งภาคเอกชนจะรู้ราคาที่เป็นจริงมากที่สุด ดังนั้นหากรัฐ และเอกชนร่วมมือกันในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ก็คิดว่า 1-2 ปีข้างหน้า คงจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านการทุจริตคอรัปชั่นที่ลดลงได้
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจยังมองเศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโต 3-5% สอดคล้องกับภาควิชาการที่มอง 3.5-4% โดยการส่งออกจะขยายตัว 8-10% มีรายได้การท่องเที่ยวมี 15 ล้านคน สาเหตุที่เศรษฐกิจปีหน้าไม่โดดเด่นเท่าปีนี้ที่โต 7.5-8% เนื่องจากการอุทกภัยที่เกิดขึ้นปลายปีซึ่งจะกระทบต่อการบริโภคให้ลดลงช่วงไตรมาส 4 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1ปี 54 แต่หากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงเร็ว การบริโภคก็จะฟื้นได้ช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า
ส่วนการตัดสินยุบพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเกิดขึ้นวันที่ 29 พ.ย.นี้ หากผลตัดสินยุบพรรค จนนำไปสู่การยุบสภา เลือกตั้งใหม่จะส่งผลต่อความไม่มั่นใจของภาคประชาชน และกระทบต่อจีดีพีประเทศ 0.5% แต่หากยุบพรรคและประชาชนยังมีความมั่นใจต่อรัฐบาลใหม่ เศรษฐกิจปีหน้าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3% และหากไม่ยุบพรรคก็ไม่มีผลกระทบใดเลย
http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000168181แมร่งโกงกันหมดอย่าว่าแต่แม้วเลย ไคนใน ปชป และคนพรรคห้อยเตี้ยก็โกง
วันนี้พรรคประชาธปัตย์ กําลังอยู่ในวังวนความชั่วร้าย!!??ของประเทศไม่ต่างอะไรกับยุคทักษิณ พรรคร่วมแบ่งกีนโกงทั้งๆที่ประชาธิปัตย์จัดการไม่ได้!!?? ผมไวกม่ได้เกลียดประชาธิปัตย์แต่ขอร้องใประชาธิปัตย์ ปรับปรุงตัวเสียไม่งั้นอาจจะเกิดการเสื่อมศัทรธาระยะยาว