kainuy555 wrote:...แต่บางคน น้ำท่วมปากนะ...555
เรื่องจัดโซนน้ำท่วมผมเห็นด้วยครับว่าควรจัดให้เด็ดขาดว่าพื้นที่ส่วนไหนยอมให้น้ำท่วมได้/ไม่ได้ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน
และแน่นอนว่าโซนที่น้ำท่วมได้รัฐบาลต้องสนับสนุนงบเป็นพิเศษรวมถึงให้สิทธิพิเศษบางประการ
(เช่นโซนนี้เพราะปลูกอะไรจะได้เมล็ดพันธุ์,ปุ๋ย,คำแนะนำทางวิชาการฟรี ให้ทหารช่างช่วยดูแลซ่อมแซมบ้านให้ทุกปีในวงเงินเท่าไหร่ต่อครอบครัวก็ว่ากันไป)
และผมเสนอให้มีการปรับปรุงแหล่งกักเก็บน้ำเพิ่มเติมมากกว่าที่คิดจะระบายก้อนน้ำที่ท่วมให้ลงทะเลไปโดยเร็วที่สุดนะครับ
เพราะน้ำที่ท่วมทุกครั้งจะลงมาจากภาคเหนือแล้วก็ท่วมมาตามรายทางจนลงสู่ทะเล
ถึงเราจะเร่งความเร็วของน้ำอย่างไรมันก็ต้องท่วมมาตามแนวนี้นะครับ มันแก้ไม่ได้เพราะน้ำมามากเกินกว่าที่จะระบายตามปรกติ
ถ้าจะให้ระบายเร็วก็อาจต่ออุโมงค์ลอดใต้ดินมาสูบน้ำเจ้าพระยาให้รอรับน้ำที่จะท่วมลงมาได้
(สมมุติต่อจากนครสรรค์ลงอ่าวไทยเลย ตัดตรงอุโมงค์คงยาวไม่ถึง 300 กม. สร้างเป็นอุโมงค์เปล่าๆผมไม่ทราบว่าค่าก่อสร้างจะสักกี่หมื่นล้าน)
แบบนี้ระบายน้ำเร็วแน่ครับแต่ผมว่าพอหน้าแล้งเราจะเสียดายน้ำที่สูบทิ้งทะเลไป
ดังนั้นผมเสนอให้ทำบ่อน้ำขนาดยักษ์แบบมโหฬารตามที่ว่าไปในกระทู้ที่แล้วนะครับ
ผมสงสัยเรื่องระบบกักเก็บน้ำจริงๆครับ
คือก็ทราบกันอยู่ว่าทรัพยากรน้ำนี่มีค่ามหาศาล แต่พอมากไปมันก็เป็นปัญหา
สร้างเขื่อนกักเก็บป่าก็หายอีก
ดังนั้นมันเป็นไปได้ไหมครับที่เราจะขุดพื้นราบๆนี่แหละให้ลึกลงไปสัก 50 เมตร
แล้วทำเป็นบ่อขนาดมหึมาเลยเอาไว้กักเก็บน้ำ
มีน้ำแล้วก็สูบขึ้นมาใช้ ก่อนเข้าฤดูฝนก็ใช้เสียให้แห้งหมดเพื่อเอาไว้รอรับน้ำที่จะท่วม
ทำเป็นบ่อขนาดสัก 5 ตร.กม.เลย
( 1 ตร.กม.= 1 ล้าน ตรม.x 50เมตร ก็จะกักเก็บน้ำได้ถึง 250 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับอัตรระบายน้ำของเขื่อนภูมิพลตามปรกติได้ถึง 10 วัน)
สร้างตามจุดที่เชื่อมต่อแม่น้ำที่มีปัญหาอุทกภัยบ่อยๆอย่างแม่ปิง เจ้าพระยา ป่าสัก ฯลฯ ทำหลายๆบ่อผมว่าเราก็จะได้ระบบชลประทานที่ดีขึ้นได้
ไม่น่าทำยากมากนะครับ เทคโนโลยี่ปัจจุบันน่าจะทำได้สบาย
ส่วนค่าเวนคืนที่ก็ได้คืนจากค่าดินที่ขุดขึ้นมาครับ มโหฬารเลย
ในเชิงวิศวกรรมทำได้หรือเปล่าไม่รู้นะครับ (อาจต้องทำบ่อให้มีองศาลาดเอียงสักหน่อย) แต่ผมว่ามันคงช่วยลดปัญหาซ้ำซากนี้ไปได้อีกเยอะ
kainuy555 wrote:...แต่บางคน น้ำท่วมปากนะ...555
Bourne wrote:kainuy555 wrote:...แต่บางคน น้ำท่วมปากนะ...555
เจ๋งว่ะ ด่า e-ปูโง่ ก็เป็นด้วย ว่าง ๆ ไปวิดน้ำให้ปากมันหายท่วมหน่อยสิวะ บอกมันด้วย ชิหายขนาดนี้ ชาวบ้านเค้าเข้าใจ โง่บัดซบ เอ้ย เป็นมือใหม่ ไม่มีใครเค้าถือสาหรอก
conservative wrote:kainuy555 wrote:...แต่บางคน น้ำท่วมปากนะ...555
มาโชว์โง่แล้วก็หายไป
คงคิดว่าตัวเองฉลาดสุดๆแล้วสิท่า.......
amplepoor wrote:ระหว่างลำเลียงน้ำ กับไล่น้ำ ใช้พลังงานต่างกันกี่เท่า
ลองคิดให้หน่อย ไล่น้ำน้ำแปดพันล้านลบ.ม. จากอยุธยาลงอ่าวไทยให้หมด ในเวลาสิบวัน
ต้องใช้เงินเท่าไหร่
kainuy555 wrote:conservative wrote:kainuy555 wrote:...แต่บางคน น้ำท่วมปากนะ...555
มาโชว์โง่แล้วก็หายไป
คงคิดว่าตัวเองฉลาดสุดๆแล้วสิท่า.......
คนเราฉลาดเฉพาะทางครับ
ผมไม่ได้ฉลาดไปทุกเรื่อง
เรื่องยึดสนามบินนี่ ผมไม่ฉลาดครับ 555
kainuy555 wrote:อย่างน้ำประปาในบ้านเรา ก็บริการจัดการด้วยระบบท่อนี่แหละครับ
ขนาดของท่อน้ำประปามันคนละเรื่องกับขนาดของท่อระบายน้ำเลยนะครับ
พูดง่ายแต่มองงบประมาณหรือเปล่าครับว่าต้องใช้เท่าไหร่ ขุดกันกี่ปีเสร็จ
บ้านเราถ้าฝนแล้ง ก็ส่งน้ำตามท่อไปให้
ถ้าน้ำท่วม ก็เอาน้ำออกส่งลงทะเล ด้วยระบบท่อ
ถ้าเวลาน้ำมากระบายน้ำตามท่อลงทะเล
แต่พอฝนแล้งจะเอาน้ำที่ไหนส่งครับ?
น้ำทะเลเหรอ?
แม้แต่สนามฟุตบอลมาตรฐาน สนามฟุตซอลมาตรฐาน หรือสนามกีฬามาตรฐาน
เขาก็มีการระบายน้ำด้วยระบบท่อนี่แหละครับ
ครับ
แม้นแต่บ้านผมก็มีท่อระบายน้ำ น่าแปลกใจไหม?
ใครคิดแบบโง่ๆ หรือคิดแบบฉลาดกันละครับทีนี้
เหล็กหนักๆ เขายังคิดหาวิธีทำให้บินได้เลยครับ
คิดค้นยารักษาโรค ยังยากกว่านี้เลยครับ
คิดแบบฉลาดๆมันต้องมองให้ครบครับ
มองระยะเวลาที่จะเสร็จ มองงบประมาณ
มองว่าด้วยงบเท่ากัน ทำอย่างอื่นได้ประโยชน์กว่าไหม?
ถ้าคิดแค่ว่าน้ำมากก็สูบใส่ท่อไปทิ้งนี่ผมไม่เห็นว่าจะฉลาดอะไรเลย
กทม.ก็มีอุโมงค์ยักษ์ครับ งบก่อสร้างมหาศาลขนาดระยะทางไม่ไกลนัก
อุโมงพวกนี้ถ้าเทียบกับหน้าตัดของแม่น้ำเจ้าพระยาก็เล็กน้อยครับ
จึงป้องกันและแบ่งเบาได้แต่ กทม.เท่านั้น
ที่สำคัญ กทม. ไม่ได้ทำเพาะปลูกไม่ได้ต้องการใช้น้ำมากมาย ไม่ไกลทะเล การสูบไปทิ้งจึงเป็นวิธีที่เหมาะสม
แต่จังหวัดอื่นจะเหมาะสมหรือไม่ก็ต้องเอาตัวเลขมากางดูกัน
ฉลาดหรือโง่ไม่ใช่เรื่องที่ตัวเราเองตัดสินได้ครับ
ถึงบอกไงครับ คิดยึดสนามบิน เอาเวลาไปคิดอย่างอื่นที่สร้างสรรดีกว่าครับ
(รู้นะว่าจะโต้ตอบอย่างไร 55)
kainuy555 wrote:amplepoor wrote:ระหว่างลำเลียงน้ำ กับไล่น้ำ ใช้พลังงานต่างกันกี่เท่า
ลองคิดให้หน่อย ไล่น้ำน้ำแปดพันล้านลบ.ม. จากอยุธยาลงอ่าวไทยให้หมด ในเวลาสิบวัน
ต้องใช้เงินเท่าไหร่
เงินคืออะไรครับ
เงินคือสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
เงินกับชีวิต อะไรสำคัญกว่าครับ
amplepoor wrote:ระหว่างลำเลียงน้ำ กับไล่น้ำ ใช้พลังงานต่างกันกี่เท่า
ลองคิดให้หน่อย ไล่น้ำน้ำแปดพันล้านลบ.ม. จากอยุธยาลงอ่าวไทยให้หมด ในเวลาสิบวัน
ต้องใช้เงินเท่าไหร่
kainuy555 wrote:amplepoor wrote:ระหว่างลำเลียงน้ำ กับไล่น้ำ ใช้พลังงานต่างกันกี่เท่า
ลองคิดให้หน่อย ไล่น้ำน้ำแปดพันล้านลบ.ม. จากอยุธยาลงอ่าวไทยให้หมด ในเวลาสิบวัน
ต้องใช้เงินเท่าไหร่
เงินคืออะไรครับ
เงินคือสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
เงินกับชีวิต อะไรสำคัญกว่าครับ
guxkung wrote:kainuy555 wrote:amplepoor wrote:ระหว่างลำเลียงน้ำ กับไล่น้ำ ใช้พลังงานต่างกันกี่เท่า
ลองคิดให้หน่อย ไล่น้ำน้ำแปดพันล้านลบ.ม. จากอยุธยาลงอ่าวไทยให้หมด ในเวลาสิบวัน
ต้องใช้เงินเท่าไหร่
เงินคืออะไรครับ
เงินคือสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
เงินกับชีวิต อะไรสำคัญกว่าครับ
เห้อ คุณไข่ นี่ก็พยายามจะหาสาระซะจริง แต่กลับไม่จับไปถึงแก่นสาร
แล้วถ้าจะสร้างของ คุณจะแบกปูนไป แล้วจ้างคนงานด้วยการเลี้ยงอาหาร กับทองคำหรือไงครับ
ท่าน amplepoor ไม่ได้พูดสักกะคำว่าชีวิตคนไม่สำคัญ แต่ เค้าถามว่าจะสร้างระบบแบบที่คุณว่า ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่
สู้ไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น ตามฟอร์ม
แตงดุ๊ด wrote:แค่คิดใครก็คิดได้ เอาให้หรูแค่ไหนก็คิดได้ แต่คิดโดยไม่นึกถึงสภาพแวดล้อมความเป็นจริง เวลาสถานที่ประหนึ่งทำได้วันนี้วันพรุ่งแล้วมาข่มว่าคนอื่นน้ำท่วมปากยังกับตัวเองฉลาดคิดได้อยู่คนเดียว แบบนี้เรียกเพ้อเจ้อคะ
เช neverdie wrote:ไม่โง่เป็นควายเป็นเสื้อแดงไม่ได้ครับ ขาดคุณสมบัติ(หรือว่าโทษสมบัติหว่า)
เปล่า... !!! ไม่ได้ว่าใคร